*** หมายเหตุ : ราคารับซื้อคืนทองรูปพรรณ ตามหลักเกณฑ์ สคบ.กำหนดให้ร้านทองสามารถหักได้ไม่เกิน 5% จากราคาทองคำแท่งรับซื้อในวันนั้น ๆ ทั้งนี้หลักเกณฑ์ดังกล่าวใช้เฉพาะกรณีซื้อ-ขายร้านเดิมเท่านั้น ***

เล่นทองต้องมองเงินบาท

ณ วันที่ 11/11/2557

HTML Editor - Full Version

เล่นทองต้องมองเงินบาท

                

          เป็นที่ทราบกันดีสำหรับนักลงทุนทองคำครับว่า ปัจจัยที่สำคัญที่มีผลต่อราคาทองคำนั้นอยู่ที่การเคลื่อนไหวของค่าเงินโดยเฉพาะค่าเงินดอลลาร์ซึ่งจะเคลื่อนไหวผกผันกับราคาทองคำ โดยสามารถติดตามและคาดการณ์การเคลื่อนไหวได้ผ่านแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ปัจจัยที่นักลงทุนทองคำส่วนใหญ่หลงลืมที่จะติดตามก็คือค่าเงินบาทนั่นเองครับ โดยหากค่าเงินบาทคงที่แต่ราคาทองคำเปลี่ยนแปลงไป 1 ดอลลาร์ ราคาทองคำในประเทศจะเพิ่มขึ้น 15 บาท ขณะที่หากราคาทองคำในตลาดโลกคงที่แต่ค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์เปลี่ยนแปลงไป 10 สตางค์ ราคาทองคำจะเปลี่ยนแปลงไปประมาณ 60 บาท นั่นหมายความว่า หากราคาทองคำในตลาดโลกเพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์ แต่ค่าเงินบาทแข็งค่า(เป็นผลลบต่อราคาทองคำในประเทศ) 10 สตางค์ ราคาทองคำในประเทศจะไม่ได้รับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกเลยนั่นเอง เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว การติดตามค่าเงินบาท ก็ถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ต้องติดตาม ซึ่งสามารถติดตามผ่านแนวโน้มเศรษฐกิจไทยนั่นเอง ในบทความชิ้นนี้เราลองมาดูแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงปลายปีกันดีกว่าครับ

          เศรษฐกิจไทยในปีนี้ต้องยอมรับว่าค่อนข้างสะบักสะบอมกันพอสมควร โดยประเด็นกดดันอยู่ที่ความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้นเกือบตลอดครึ่งปีแรก ส่งผลให้การลงทุนลดลงและเป็นผลลบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน จนทำให้เกิดแรงขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรจนเงินบาทอ่อนค่าลงอย่างหนักในช่วงต้นปี หลังจากนั้นก็มาเคลื่อนไหวในกรอบ 32-33 บาท และมาแข็งขึ้นอีกครั้งจากการอ่อนค่าลงอย่างหนักของค่าเงินดอลลาร์ หลังจากที่หลายสถาบันออกมาปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกลงและการระบาดของเชื้ออีโบล่า สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทในช่วงไตรมาส 4 นั้น ยังมีโอกาสแข็งค่าอีกครั้ง จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี โดยตัวเร่งที่ให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้นั้นอยู่ที่การเร่งใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลใหม่ เพื่อกระตุ้นการบริโภคและเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน

          นอกจากนี้ยังต้องติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกอีกทางหนึ่ง โดยหากตัวเลขเศรษฐกิจในภูมิภาคที่สำคัญอย่าง สหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่นและจีนมีการฟื้นตัวในช่วงปลายปีนี้ การส่งออกที่เพิ่มขึ้นจะเป็นอีกหนึ่งตัวเร่งให้ภาวะเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าได้อีกครั้ง แต่หากการเร่งเบิกงบประมาณไม่สามารถฟื้นฟูการบริโภคและการลงทุน บวกกับความกังวลต่อภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลกยังคงอยู่จนการส่งออกลดลง ค่าเงินบาทก็อาจอ่อนค่าลงอีกครั้ง

          โดยสรุปแล้ว ในช่วงไตรมาส 4 นี้ต้องติดตามการใช้จ่ายของภาครัฐและการส่งออก ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะหนุนให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ซึ่งจะกดดันราคาทองคำในประเทศ โดยในช่วงเวลาที่ราคาทองคำในตลาดโลกมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบนั้น การเคลื่อนไหวที่ผันผวนของค่าเงินบาทจะเป็นอีกประเด็นที่มีผลต่อราคาทองคำในประเทศ การติดตามภาวะเศรษฐกิจไทยเพื่อดูแนวโน้มค่าเงินบาทจึงเป็นอีกประเด็นที่ต้องพิจารณานั่นเองครับ 


 

ขอบคุณภาพจาก : www.tnews.co.th , www.stock2morrow.com
ที่มา : จุลสารทองคำ เดือน พฤศจิกายน 2557
พิมพ์แจก สมาชิกสมาคมค้าทองคำ ทั่วประเทศ

 

 

Hit Counter
ผู้ชม