สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือนเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และตลาดหุ้นสหรัฐที่พุ่งทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ ได้ส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 9 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ระดับ 1,275.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค.
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.2 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 16.654 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 916.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 25.55 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 911.30 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยโดยผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM พุ่งขึ้นสู่ระดับ 60.8 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2004 จากระดับ 58.8 ในเดือนส.ค. โดยข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ แม้มีการคาดการณ์ว่าพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ และเออร์มาจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวในไตรมาส 3 ก็ตาม
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนส.ค. แตะระดับ 1.21 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น 0.4%
นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.49% สู่ระดับ 93.531 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ เมื่อดอลลาร์แข็งค่า จะส่งผลให้สัญญาทองคำมีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
--อินโฟเควสท์